sahabet305.com
7 การประมวลผลและการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลที่ได้ยังไม่อยู่ในรูปที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาทำการตรวจสอบ เรียบเรียงหรือประมวล และทำการวิเคราะห์เสียก่อนจึงจะได้ข้อมูลที่สามารถอ่านได้ง่าย เพื่อที่จะได้แปลความและนำเสนอต่อไป 2.
ราคาสินค้าดังกล่าวได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดส่งสินค้าทุกประเภท
มุมมองด้านการเรียนรู้และเติบโต(The Learning and Growth Perspective) เช่น รายได้ การพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรม เป็นต้น การประเมินผลการปฏิบัติราชการตาม กพร. สืบเนื่องจาก ปี 2546 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการและรายละเอียดของแนวทางในการกำหนดกรอบแนวทางและวิธีการสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกำหนดให้ส่วนราชการต้องทำการพัฒนาการปฏิบัติราชการและทำข้อตกลงผลงานกับผู้บังคับบัญชาและจะได้รับสิ่งจูงใจตามระดับผลงานที่ทำข้อตกลงไว้ ภายใต้กรอบการประเมิน 4 มิติดังนี้ 1. มิติด้านประสิทธิผล แสดงผลงานที่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของแผนปฏิบัติราชการตามที่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน 2. มิติด้านคุณภาพการให้บริการ แสดงการให้ความสำคัญการผู้รับบริการในการให้บริการที่มีคุณภาพ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ 3. มิติด้านประสิทธิภาพของการปฏิบัติราชการ แสดงความสามารถในการปฏิบัติราชการ เช่น การบริหารงบประมาณ การรัษามาตรฐานระยะเวลาการให้บริการ เป็นต้น 4. มิติด้านการพัฒนาองค์กร แสดงความสามารถในการบริหารจัดการองค์กร เพื่อสร้างความพร้อมในการสนับสนุนแผนปฏิบัติราชการ
2 วัตถุประสงค์ในการประเมินผล โดยทั่วไปจะเป็นผลที่สืบเนื่องมาจากความต้องการ ของผู้ประเมินผลรวม 2 นัย คือ (1) โครงการมีความก้าวหน้าตามแผนที่กำหนดไว้หรือไม่ มีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน เพียงใด และมีแนวทาง แก้ไขอย่างไร และ (2) เมื่อโครงการสิ้นสุดลงแล้ว โครงการประสบผลสำเร็จ หรือไม่ เพียงใด และโครงการสมควรกระทำต่อเนื่องหรือไม่ 2. 3 ข้อมูลที่จะต้องรวบรวม ต้องกำหนดว่าจะใช้ข้อมูลอะไรบ้าง ที่นำมาวิเคราะห์แล้วสามารถตอบ อธิบายหรือชี้แจงวัตถุประสงค์ในการประเมินผลนั้นได้ การพิจารณาข้อมูลที่ต้องการรวบรวมนั้นควรแยกพิจารณาไปตามวัตถุประสงค์ในการประเมินผลแต่ละข้อ วิธีการที่ผู้เขียนนิยมใช้ในการกำหนดข้อมูลที่จะต้องรวบรวม คือ การใช้ตัวชี้วัด ( Indicators) มาช่วย เช่น เราต้องการประเมินผลในส่วนผลกระทบระยะสั้น ( Effect) ของโครงการ ในเรื่องเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่ ตัวชี้วัดในเรื่องนี้ก็คือ ผลผลิตเฉลี่ย (กก. /ไร่) เพิ่มขึ้น ซึ่งในการนี้เราจะต้องเก็บข้อมูล ผลผลิตเฉลี่ย 2 ข้อมูลมาเปรียบเทียบกัน คือ ผลผลิตเฉลี่ยก่อนโครงการกับผลผลิตเฉลี่ยหลังโครงการ หรือผลผลิตเฉลี่ยของกลุ่มในโครงการกับผลผลิตเฉลี่ย ของกลุ่มนอกโครงการ 2.
การประเมินสภาวะเร่งด่วน 3. 1 ความหมาย การประเมินสภาวะเร่งด่วน เป็นเทคนิคและวิธีการในการประเมินผล ที่นำมาใช้ ในกรณีที่ผู้บริหารต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน ซึ่งผู้ประเมินผลไม่สามารถใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วจากระบบมาทำเป็นคำตอบได้ เพราะข้อมูลจากระบบข้อมูลที่วางแผนไว้นั้น จะได้มาตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในแผน หรืออีกกรณีหนึ่ง ผู้ประเมินไม่ได้วางแผน การเก็บข้อมูลประเภทที่จะนำมาทำเป็นคำตอบให้ผู้บริหาร 3. 2 ประโยชน์ของการประเมินสภาวะเร่งด่วน ได้แก่ ได้คำตอบที่รวดเร็ว และค่าใช้จ่ายต่ำ 3. 3 วิธีการที่ทำให้การประเมินผลมีความรวดเร็ว วิธีการที่จะทำให้การประเมินผลมีความรวดเร็วได้นั้นมีลักษณะ ดังนี้ (1) ขอบเขตของการประเมินผลไม่กว้าง (2) คำถามที่ต้องการคำตอบมีไม่มาก (3) จำนวนตัวอย่างต้องจำกัดให้น้อยลง (4) ถ้ามีความจำเป็นต้องไปตรวจสอบพื้นที่ ควรเลือกพื้นที่ให้น้อยลง และ (5) พยายามใช้ตัวบ่งชี้ทางอ้อม 3. 4. เทคนิคในการเก็บรวบรวมข้อมูล การประเมินสภาวะเร่งด่วน มีเทคนิคและวิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้หลายวิธี ดังนี้ (1) การเลือกตรวจเยี่ยมสถานที่โครงการ (2) การสัมภาษณ์หมู่ (3) เลือกสัมภาษณ์เฉพาะรายอย่างละเอียด (4) การสุ่ม สอบถามข้อมูลจากเกษตรกรเป็นบางราย (5) ใช้ข้อมูลทุติยภูมิ (6) ใช้ข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ 3.
การประเมินปัจจัยเบื้องต้น (Input Evaluation) เป็นการตรวจสอบความพร้อมของปัจจัยนำเข้าหรือการประเมินทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานเช่น คน เงิน วัสดุอุปกรณ์ การจัดการ เป็นต้น 3. การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) เป็นการเลือกใช้วิธีการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ เพื่อติดตามความก้าวหน้า หรือหาข้อบกพร่องและแนวทางการแก้ไข 4. การประเมินผลผลิต(Product Evaluation) เพื่อวัดและประเมินผลสำเร็จ เป็นการประเมินผลที่ได้ทั้งหมดว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ โดยอาศัยรายงานจากสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้นและกระบวนการ เพื่อตัดสินใจยุบ ขยาย เลิก ล้มโครงการ บาลานซ์สกอร์การ์ด (Balanced scorecard: BSC) โดย Dr Robert S. Kaplan และ David Norton เป็นเทคนิคหนึ่งในการประเมินประสิทธิภาพขององค์กร ซึ่ประกอบด้วยมุมมอง 4 มุมมอง ได้แก่ 1. มุมมองด้านการเงิน(The Financial Perspective) ดูในเรื่องระบบการการเงินเป็นสำคัญเช่น กระแสเงินสด ลูกหนี้ เป็นต้น 2. มุมมองด้านลูกค้า(The Costumer Perspective) คูสิ่งที่มีผลกระทบต่อลูกค้าโดยตรง เช่น ความพึงพอใจ เวลาในการรับบริการ เป็นต้น 3. มุมมองด้านกระบวนการและประสิทธิภาพการทำงาน (The Business Process/Internal Operations Perspective) ดูสิ่งที่มีผลกระทบต่อกระบวนการทำงานเช่นเวลาในการทำงาน ผลงาน ผลสำเร็จของงาน เป็นต้น 4.
การวัดผล(Measurement) ทำให้ทราบสภาพความเป็นจริงขิงสิ่งที่จะประเมินว่ามีปริมาณเท่าใด มีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการนำไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ 2. เกณฑ์(Criteria) หรือมาตรฐานในการพิจารณาตัดสินคุณค่าของการดำเนินงาน 3. การตัดสิน(Decision) เป็นการชี้ขาดระหว่างผลการปฏิบัติกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ขั้นตอนการวัดและประเมินผล 1. การกำหนดสิ่งที่ต้องประเมิน 2. การกำหนดวิธีการหรือเครืองมือที่ใช้ประเมิน 3. การสร้างหรือเลือกเครื่องมือ 4. การดำเนินการทดสอบเครื่องมือ 5. การตรวจประเมิน 6. การวิเคราะห์และการนำไปใช้ การประเมินผลมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ เป้าหมายและความเหมาะสมในการนำไปประยุกต์ใช้องค์กร CIPP MODEL (Conttext-Input-Process-Product Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) เป็นการประเมินที่ต่อเนื่องเพื่อให้ได้รายละเอียดต่างๆเพียงพอกับการตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกเป้าหมาย จุดมุ่งหมายการดำเนินงาน การกำหนดยุทธวิธี กำหนดแผนงาน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมและการตัดสินใจเกี่ยวกับการคง ขยาย ยุบ เลิกแผนงานโครงการนั้นๆ โดยจะประเมินทั้ง 4 ด้านดังนี้ 1. ประเมินสภาวะแวดล้อม(Context Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับการวางแผนในการกำหนดวัตถุประสงค์ โดยเน้นความสัมพันธ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ความต้องการ ความจำเป็น กระแสสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ตลอดจนปัญหาชุมชน มีอยู่ 2 วิธีได้แก่ การประเมินเพื่อหาโอกาสและแรงผลักดันจากภายนอก และการประเมินโดยการเปรียบเทียบกับการปฏิบัติงานจริงกับวัตถุประงค์ที่วางไว้ 2.