sahabet305.com
3 เดินผ่านรั้วปูนเข้ามาสัก 100 เมตร จะเจอลานกางเต้นท์ (ตอนที่หาข้อมูลมาว่าที่ ย. 3 นี้มีความลี้ลับอะไรบางอย่าง ก็คือกลัวมาก แต่ใจก็สู้มาก แบบ เหยยย ไม่มีอะไรหรอกแก 5555 เจออะไรมั้ย?? เราว่าเราไม่เจอนะ น่าจะแค่คิดไปเอง มั้งงง) บ้านที่เราพัก ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของม. พายัพ ต้องขออนุญาตในการเข้าไปไม่งั้นเราจะกลายเป็นผู้บุกรุกได้ สามารถติดต่อได้ตามเบอร์โทรข้างล่างนี้เลย บ้านพักขนาบพื้นที่ส่วนกลางที่มีระเบียง วิวไม่สวยมากแต่ก็มองเพลินดี ลมเย็นและหนาวมาก ตอนนั้นเรามาถึงประมาณเที่ยงกว่า ก็จัดข้าวเหนียวไก่ย่างที่ซื้อมาจากสถานีก่อนเลย แล้วก็เอาของไปเก็บที่บ้านพักกัน 1 หลังอยู่ได้ 12 คน คนละ 200 บาท (ไม่มีรูปบ้านตัวเต็มๆมาให้ดู ต้นไม้บัง 5555 เป็นบ้านไม้ มีห้องน้ำในตัว 4 ห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 ห้อง ไฟฟ้ามีให้ใช้แค่ 18. 00-22. 00 น. ที่นอนสะอาด ให้มาทั้งผ้าห่มและถุงนอน รู้เลยว่ามันหนาวแน่ๆ 5555 หลังจากพักผ่อนกันเรียบร้อย ก่อนที่จะเย็นไปกว่านี้ เราก้เริ่มทำมื้อเย็นกันตอนบ่าย 3 อากาศตอนนั้นประมาณ 15-16 องศา มือเย็นไปหมดแล้วจ้า T^T อุปกรณ์ เครื่องครัวของที่พักครบมาก จาน ชาม ช้อน เตาปิ้ง (ถ่านต้องเอามาเอง) มีเตาแก๊ส ให้ด้วย อ้อ!!!
ด้วยความสูงของผมราวๆ 182 CM คิดว่าจะนอนไม่สบายแน่ๆ ขาติดแน่ๆ พลาดแล้วกู แต่เห้ย! พอลองนอนดูเท่านั้นแหละ ขายาวๆนี้เตียงเค้าเก็บได้หมดเลย นอนสบายมากไม่ต้องงอขาเลยครับ ซักพักก็มีพนักงานเอาเมนูอาหารเช้ามานำเสนอ ด้วยความที่อ่ะ! นานๆมานั่งทีก็อยากลองกินอาหารเช้าบนรถไฟบ้าง ซึ่งอาหารเค้าก็ตามรูปเลยครับ ไม่ได้แย่ ส่วนราคาชุดนี้ก็ 190 บาท เช้าวันเสาร์ พวกเราออกจากสถานีรถหัวลำโพงตอน 22. 00 น. ในคืนวันศุกร์ ถึงสถานีดอยขุนตาลประมาณ 11. 30 น. ของวันเสาร์ อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกครับ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติก็จะอยู่ตรงที่รถไฟจอดบริเวณหน้าอุโมงค์ขุนตาลเลย ซึ่งเรามีวิธีไปอุทยาน 2 แบบนะครับ คือไปกับรถรับจ้าง หรือว่าจะเดินขึ้นไปก็ได้ และแน่นอนในทริปนี้พวกเราเลือกที่จะเดินครับ นั่งรถขึ้นเดี๋ยวไม่คูล! ระยะทางการเดินจากสถานีรถไฟไปที่ทำการอุทยานก็ราวๆ 1. 2 km ครับ ในทริปนี้เราจะเป็นการเดินไปเม้าท์มอยไป ตามประสาคนไม่เจอกันนาน ไม่เน้นถึงไว ถึงช้าๆ แต่ถึงชัวร์ๆครับ ทำให้ในรีวิวนี้ผมก็เลยจะไม่ค่อยพูดถึงระยะเวลาในการเดินซักเท่าไหร่ เพราะว่าเราเดินไปพักไปจริงๆครับ ช้ามาก ก ไก่สิบเอ็ดตัว ก็เลยจะเอาเวลาของพวกเราไปอ้างอิงไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ฮ่าฮ่า ระหว่างทางก็แวะพักถ่ายรูปกันคูลๆ ที่ทำการอุทยาน!
วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ. ศ. 2562 เวลา 12. 38 น. 9th - 10th February 2019 เพราะ การเยือนอุโมงค์รถไฟขุนตานคราวก่อนทำให้เกิดไอเดียอยากพาเด็กน้อยที่บ้านมาฝึกเดินป่าระยะสั้น แม้ว่าบ้านเราจะ hiking เบา ๆ กันอยู่บ่อยครั้งแต่หนนี้คงเป็นครั้งแรกสำหรับโมเสสที่จะได้นอนเต้นท์ นอนดอย และทำ nature trail แบบเต็มคราบสินะครับ จขบ. เลือกอช. ขุนตาลเป็นคาร์แคมป์ที่แรกให้โมเสสค่ะ คือคาร์ของเราส่วนแคมป์ของอช. มาเช่าเอาซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกสบาย แทนการเกาะรถไฟมาลงที่อุโมงค์ขุนตานแล้วเดินเท้าต่อไปที่อช. เหมือนหลายคนทำกัน เราเลือกการขับรถขึ้นที่อช. ทีแรกก็หวั่น ๆ ทางขึ้นแต่ทางขับง่าย ขับได้อยู่ค่ะแม้จะชันอยู่บ้างก็ตาม ^^ ราคาเต็นท์ หรือบ้านพัก หรือแม้แต่ทางที่จะมาที่ อช. สามารถติดต่อสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงที่ หรือโทร 081 032 6341 อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ต. ทาปลาดุก อ. แม่ทา จ. ลำพูน (44. 21 km) เทศบาลเมืองลำพูน 51140 อช. ดอยขุนตาน อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็น อุทยานแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และ อำเภอห้างฉัตร อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง สภาพพื้นที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำ สามารถเดินทางโดย รถไฟ มาลงที่ สถานีรถไฟขุนตาน ซึ่งเป็นที่ตั้ง อุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน ป่าดอยขุนตาลเป็นป่า 1 ใน 14 แห่ง ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.
3 มาประมาณ 1, 000 เมตร เป็นยอดเขาสูงที่สุดของขุนตาน การเดินทาง 1. รถไฟสายเหนือ ลงที่สถานีขุนตาน (ประมาณ 9-10 ชั่วโมง) เดิน 1. 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ 2. เครื่องบินลงท่าอากาศยานเชียงใหม่ มาที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ลงทสถานีขุนตาน (ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง) 3. รถส่วนตัว เส้นทางขึ้นฝั่งลำปาง เป็นถนนลาดยาง มีความสูงชัน (เราเลือกอันนี้) ที่พัก 1. บ้านพักอุทยาน มีหลายโซน (ไกลสุดที่ ย. 2) 2. ลานกางเต็นท์ มีของอุทยานและนำมากางเอง (ไกลสุดที่ ย. 2 จุดนี้เป็นลานสน นิมยมมาก) 3. บ้านพักและลานกางเต้นท์ของม. พายัพ (ย. 3) มีลานกางเต็นท์กับบ้าน 3 หลัง (เราเลือกอันนี้) ป่ะ!!!
1 เป็นบ้านพักการรถไฟสีเหลือง จากย. 1 ไปย. 2 ประมาณเกือบโล เป็นต้นไม้สูงใหญ่ เดินง่าย ทางเรียบ มีบันไดบ้างบางส่วน ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกประเภทต้นไม้ที่สำคัญๆ ด้วย และลูกหาบที่เราพูดถึงตอนต้นคือแบบนี้ค่า มอเตอร์ไซด์หาบ เฟี้ยวมาก มีไม่เยอะนะคะ ช่วยแบ่งเบาความหนักของเราได้ (ไม่มั่นใจว่ากิโลละเท่าไหร่ น่าจะ 25-30 บาท ของพวกเราจ่ายไป 600 บาทถ้วน) และเราก็มาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะถึงย. 2 บันไดยาวๆไปเลย พอขึ้นมาถึงข้างบนจะเป็นจุดนั่งพักและจุดชมวิว เราพักกันอยู่สัก 10 นาทีแล้วก้เดินต่อไป 50 เมตรก็เจอกับป้ายที่บอกว่า ถึงแล้วนะ แต่ยังถึงไม่สุดดีนะคะ ต้องเดินขึ้นเนินสุดชันไป 1 เนินก่อน (พวกเราไม่ได้พักที่นี่ แต่ด้วยความอยากรู้ว่าจุดกางเต้นท์ยอดนิยมของที่นี่เป็นยังไง เอ้า!!! ลองไปดูด้วยตาตัวเองกันสักหน่อย เหนื่อยเพิ่มเฉย 55555) พอขึ้นมาถึง มีคนกางเต้นท์ประมาณ 2-3 เต้นท์ ตรงจุดนี้เป็นสานสนกว้างๆ มีห้องน้ำบริการ ให้ความรู้สึกเหมือนมีรอบกองไฟด้วย ชิลดี ก็เป็นอีกจุดแนะนำที่เหมาะสำหรับกางเต้นท์ หลังจากนั้นเดินไปอีก 3 กิโลเมตรจะถึง ย. 3 เดินยาวๆเลยทีนี้ เดินไม่ยากมาก ทางร่มรื่น แต่ไกล และในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงย.