sahabet305.com
การสร้างแบรนด์สินค้า เพื่อเป็นการแยกสินค้าแต่ละชิ้น แต่ละแบรนด์ สามารถทำได้ดังนี้ 1. เข้าไปที่หน้าสินค้า 2. กดปุ่ม "จัดการแบรนด์" 3. กดที่ "+เพิ่มแบรนด์" 4. ให้เพิ่มแบรนด์สินค้าลงในช่องชื่อแบรนด์ เมื่อเพิ่มเสร็จแล้ว กด "บันทึก" ได้เลย 5. เมื่อบันทึกเรียบร้อย แบรนด์ที่สร้างไว้จะแสดงดังภาพ สามารถเลือกเพิ่มสินค้าลงในแบรนด์ได้ว่าต้องการให้สินค้าแต่ละตัวอยู่ในแบรนด์ใด และจำนวนสินค้าที่มีอยู่ในแบรนด์จะแสดงอยู่ในช่อง "จำนวนสินค้า" การเพิ่มสินค้าลงในแบรนด์ มี 3 กรณี คือ 1. กรณียังไม่เคยสร้างสินค้า ให้ทำการสร้างสินค้าก่อน 2. กรณีที่เคยสร้างสินค้าแล้ว สามารถเพิ่มลงในแบรนด์ได้ 3. กรณีที่เคยสร้างสินค้าแล้ว และต้องการเพิ่มสินค้าเข้าไปในแบรนด์ที่สร้างใหม่ครั้งละหลายๆรายการ กรณียังไม่เคยสร้างสินค้า ให้ทำการสร้างสินค้าก่อน สามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้ 1. ไปที่หน้าสินค้า 2. กดปุ่ม "+เพิ่มสินค้า" 3. ใส่ข้อมูลรหัสสินค้า ชื่อสินค้า และราคา ในช่อง "Brand" สามารถเลือกแบรนด์ที่ต้องการให้สินค้านี้ไปอยู่ในแบรนด์นั้นๆได้เลย เสร็จแล้วกด "บันทึก" กรณีที่เคยสร้างสินค้าแล้ว สามารถเพิ่มลงในแบรนด์ได้ ดังนี้ 2. กดที่ "แว่นขยาย" ในสินค้าที่ต้องการเพิ่มเข้าไปในแบรนด์ที่สร้างไว้ 3.
สร้างบุคลิกภาพให้กับแบรนด์ บุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality) นั้นคือ สิ่งที่แบรนด์แสดงออกและการมีปฏิสัมพันธ์ต่างๆด้วยลักษณะที่มีความใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุและไม่ควรจะซ้ำกับใคร จึงจะสามารถสร้างความต่างจากคู่แข่งได้ มันช่วยให้ลูกค้าเข้าใจในตัวแบรนด์ดึงดูดกลุ่มลูกค้าทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ และสร้างให้เกิดความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ด้วย 5 ลักษณะและ 12 ประเภทต้นแบบ (Brand Archetypes) 8. พัฒนาการเล่าเรื่องของแบรนด์ เราอยากให้ผู้คนพูดถึงเราอย่างไรมองเราเป็นอย่างไร ด้วยสร้างเรื่องเล่าหรือเรื่องราวของแบรนด์ (Brand Narrative and Brand Storytelling) ผ่านสื่อต่างๆที่นำเสนอความคิด การสร้างประสบการณ์ และคุณค่าต่างๆที่สามารถสร้างให้เกิดความเชื่อมโยงด้านอารมณ์ของลูกค้า และการนำโซเชียลมีเดียมาใช้ก็กลายเป็นช่องทางในการสร้างเรื่องราวที่มีปฏิสัมพันธ์หรือตอบโต้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดีในยุคนี้ 9. สร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ ขั้นตอนไปก็เป็นการกำหนด อัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ที่สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ของเราทั้งหมด และการแสดงออกของแบรนด์ ที่ต้องมีความความหมายและมีความพิเศษไม่เหมือนใคร บ่งบอกถึงตัวตนและบุคลิกภาพของแบรนด์ ตั้งแต่การออกแบบโลโก้ การใช้สี การใช้กราฟิกต่างๆ รูปภาพ ตัวหนังสือ รวมไปถึงการออกแบบหัวจดหมาย เว็บไซต์ และอื่นๆ ซึ่งควรทำเป็นไกด์ไลน์เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้ 10.
รู้จักลูกค้า ออกแบบกลุ่มเป้าหมาย คงไม่มีอะไรดีกว่าการรู้จักลูกค้า หรือคนที่เราต้องการจะสื่อสารด้วยใช่ไหมล่ะ? อย่างลองสำรวจหรือวิเคราะห์ดูว่า กลุ่มลูกค้าจะอายุเท่าไหร่ อาศัยอยู่ไหน มีวิถีชีวิตอย่างไร แล้วก็มาดูต่อว่ากลุ่มไหนที่เราควรเน้นเป็นหลักหรือเน้นเป็นเป้าหมายรอง หากเรารู้จักกลุ่มเป้าหมายแล้ว มันก็เหมือนเป็นการสร้างทิศทางให้กระบวนการถัดๆ ไป มันจะช่วยบอกถึงการกำหนดจุดยืนของแบรนด์ สิ่งที่เราเลือกจะนำเสนอ ข้อความที่เราอยากจะใช้ก็จะเป็นอะไรที่ตรงโจทย์มากยิ่งขึ้น หรืออาจจะเป็นการนำ STP (Segmentation Targeting และ Positioning) กลยุทธ์ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายมาประยุกต์ใช้ก็ได้ 3. สร้างสิ่งที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง บางวงการคู่แข่งก็เยอะ บางวงการคู่แข่งก็น้อย แต่มันดีจะกว่าไหม ถ้าเราสามารถสร้างสรรค์อะไร ที่แตกต่างจากธุรกิจคู่แข่ง นับเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องตอบจุดนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน สินค้า หรือแม้กระทั่งแนวคิด เพราะถ้าเราแตกต่างกว่า เราก็จะถูกจดจำได้ดีและจดจำได้ง่ายกว่านั้นเอง 4.
ใครที่จะขับรถแบรนด์นี้? และแบรนด์จะช่วยผู้บริโภคได้อย่างไร?
Branding คือ แบรนด์ดิ้ง Branding คือ การสร้าง ออกแบบ จำกัดความ ภาพลักษณ์ของบริษัทของเรา เพื่อสื่อสารออกไปสู่สายตาของผู้บริโภค ซึ่ง Branding marketing ในยุค 4.
วาง Position คือการกำหนดลักษณะพิเศษของสินค้าและบริการให้ชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน เพื่อให้สินค้าของเราสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายของเราได้อย่างถูกต้อง และสามารถแข่งขันกับสินค้าอื่น ๆ ได้ โดยสามารถกำหนดตำแหน่งทางการตลาดหรือ Brand positioning ได้โดย – กำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากประโยชน์ เช่น แก้ปวด แก้วิงเวียน – กำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากผู้ใช้สินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่มือใหม่ – กำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากการเปรียบเทียบคู่แข่ง เช่น เบอร์ดี้ ที่หนึ่งในใจคุณ – กำหนดตำแหน่งทางการตลาดจากคุณภาพหรือราคา 3. สร้างข้อความสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ช่องทางการสื่อสารข้อความที่จะแสดงตัวตนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ เป็นอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญในการทำ Branding เพราะต้องรู้ว่า เราจะสามารถสื่อสารข้อความดังกล่าวไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร อย่างเช่นในยุคปัจจุบัน ช่องทางในการสื่อสารของหลาย ๆ ธุรกิจ ได้เข้ามาอยู่บนออนไลน์แพลทฟอร์ม ได้แก่ Facebook Instagram Youtube เป็นต้น โดยนักการตลาดต่างต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคโดยใช้ข้อความ วีดีโอ เสียง หรือสื่ออะไรก็แล้วแต่ ที่มีความน่าสนใจ ดึงดูด และเหมาะกับกาสื่อสารในยุคสมัยนี้ให้ได้เป็นอย่างดี 4.
แบรนด์ดิ้งช่วยสร้างความต่าง การสร้างความต่างให้กับสินค้าและบริการในยุคที่มีสินค้า-บริการมากมายวางขายอยู่ในตลาด ย่อมสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งการสร้าง Branding ก็เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างความต่างให้กับสินค้าและบริการของเรา การสร้างแบรนด์ หรือสื่อสารตัวตนของสินค้าและบริการของเราออกไปสู่ผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ของเรามีจุดยืน มีสิ่งที่น่าจดจำ จนสามารถกลายเป็นหนึ่งแบรนด์ที่โดดเด่นออกมาจากสินค้าอื่น ๆ สำหรับลูกค้าในการเลือกซื้อ เลือกใช้บริการ 2. แบรนด์ดิ้งช่วยดึงจุดเด่น เมื่อคิดจะสร้างแบรนด์ สิ่งที่เราต้องทำคือ การลิสความโดดเด่น ข้อดี ข้อเสียต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ของเราออกมา เพื่อนำมาสรุปดูว่าจะวาง Position ของแบรนด์อย่างไร สิ่งไหนที่เป็นจุดขายที่โดนใจลูกค้า สิ่งไหนที่ต้องปรับปรุง การลงมือทำ Branding สินค้าและบริการ จะทำให้เราได้ลองมาจำแนกและดึงความโดดเด่นที่สินค้าและบริการของเรามี และนำสิ่งเหล่านั้นออกมาใช้สื่อสารออกไปยังผู้บริโภคนั่นเอง 3. การสร้างแบรนด์ดิ้งทำให้ขายง่าย แน่นอนว่า สินค้าและบริการที่ผู้บริโภคสามารถจดจำได้ เป็น Brand ที่โผล่เข้ามาในความคิด เมื่อจำเป็นต้องซื้อ หรืออยากซื้อสินค้าและบริการประเภทนั้น ๆ อยู่ ย่อมเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อก่อนเป็นอันดับต้น ๆ ทำให้เพิ่มยอดขายสินค้าได้อีกด้วย 4.
กดที่ "แก้ไข" 4. เลือก "Brand" ที่ต้องการให้สินค้านั้นเข้าไปอยู่ เสร็จแล้วกด "บันทึก" ได้เลย กรณีที่เคยสร้างสินค้าแล้ว และต้องการเพิ่มสินค้าเข้าไปในแบรนด์ที่สร้างใหม่ครั้งละหลายๆรายการ สามารถทำได้ ดังนี้ 2. กดที่ "Import/Export สินค้า" 3. เลื่อนลงไปที่แก้ไขสินค้า เลือกหัวข้อ "รายละเอียดสินค้า"แล้วเลือก "Export to Excel" 4. แก้ไขข้อมูลสินค้าในไฟล์ ช่อง "brand" คอลัมน์ F โดยใส่เป็นชื่อแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มสินค้านั้นเข้าไปได้เลย เสร็จแล้วบันทึกไฟล์ (ห้ามแก้ไขข้อมูล คอลัมน์ A เด็ดขาด ถ้ามีการแก้ไขจะทำให้การ Import ข้อมูลกลับเข้าไปในระบบ Error ได้) 5. กลับมาที่หน้าชิปนิตี้ และกดที่ "เลือกไฟล์" เพื่อเลือกไฟล์เข้ามาในระบบ เสร็จแล้วกด "Import" เพื่อเป็นการใส่ข้อมูลสินค้าเหล่านั้นลงในแบรนด์ตามที่ได้แก้ไขไฟล์ไว้
หากใครที่จะต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ สินค้าและบริการต่างๆ ที่คุณเองเป็นเจ้าของสินค้า การสร้างแบรนด์ เป็นสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องสร้าง เพื่อนำให้แบรนด์ของสินค้าของคุณ ให้เป็นที่รู้จัก และ เป็นที่จดจำของลูกค้า แล้วจะต้องทำอย่างไรในการสร้าง Branding ให้เป็นที่รู้จัก Highlight Branding ที่ต้องรู้!!! Branding คืออะไร? ประโยชน์ของการสร้างแบรนด์ต่อการทำธุรกิจ ขั้นตอนใน การสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่จดจำ Branding คืออะไร กันแน่?
สร้างสตอรี่ กฎข้อที่หนึ่งของแบรนดิ้ง ไม่ว่าจะในห้วงเวลาแบบไหน คือต้อง "สร้างสตอรี่" คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเจนวาย ไม่ได้แคร์เท่าไหร่แล้วกับการซื้อ "ของ" แต่พวกเขาต้องการแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของสินค้า หากจะให้เข้าเทรนด์ขณะนี้ สำคัญมากที่แบรนด์ของคุณจะต้องมีเรื่องราวและคุณค่าแบรนด์ที่เน้นไปที่การรักษาเยียวยาใจ ความเป็นพลังชุมชน และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะปัจจุบันความรู้สึกต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่าตนเองนั้นแข็งแรงมากๆ และแบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ Source